นิทานอลวนของจอมเวทย์ที่ถูกลืมกับลูกกวาดปีศาจ ภาค ซินดอรัลล่า (ใครอยากอ่านภาครั่ว ก็ตามมา)
หน้า 1 จาก 1
นิทานอลวนของจอมเวทย์ที่ถูกลืมกับลูกกวาดปีศาจ ภาค ซินดอรัลล่า (ใครอยากอ่านภาครั่ว ก็ตามมา)
สำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านครั้งแรก ขอบอกว่าถ้าท่านอยากจะอ่านนิยายที่มีคติประจำใจหรือความคิดสร้างสรรค์ละก็ ปิดเรื่องนี้ซะเถอะ เพราะเรื่องนี้จะมีแต่ความบ้า ฮา ต๊อง และไร้สาระ
ตอน จอมเวทย์ที่ถูกลืม กะ ภารกิจบ๊องตื้น
.....แกร่กๆๆๆ ครืด....ปึง...คว๊ากๆๆ......
เสียงประหลาดที่ส่งออกมาเป็นระยะๆจากกระท่อมหลังน้อยที่ตั้งอยู่บนต้นไม้โบราณ ในป่ามายาอันเป็นที่อยู่ของเหล่านักสรรพสัตว์ ท่ามกลางกองขยะที่หนาเป็นนิ้วๆยังมีบุคคลหนึ่ง ที่ยังคงนั่งทำเสียงประหลาดนั้น
....แกร่กๆ ...ครืด.....พั่บๆๆ.....แกร่ก....
มือเรียวจับด้ามปากกาตวัดเขียนตัวอักษรด้วยลายเส้นที่ยุ่งเหยิงส่วนอีกข้างก็จับหนังสือพลิกหน้าไปมาหน้าแล้วหน้าเล่า สายตายังคงเพ่งจ้องไปที่กระดาษโดยไม่สนใจกองหนังสือที่ตัวเองวางสุมกันไว้อย่างหมิ่นเหม่ นัยน์ตาสีรัตติกาลอ่านเรื่องราวที่เขียนไว้กระดาษ หัวคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ก่อนที่จะขยำกระดาษใบนั้นโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี
" โว้ยยย.ย.ยย....นึกเรื่องไม่ออกเฟ้ย!!" ร่างอ้อนแอ้นในชุดดำลุกพรวดขึ้นมาจากกองกระดาษ เผยให้เห็นเด็กสาวที่ตัดผมซอยสั้นที่มีผมสีดำสลับกับสีน้ำตาลแดงยาวระต้นคอกับแว่นหนาอันโตๆที่เจ้าตัวมักใส่อ่านหนังสืออยู่เสมอ ยามนี้กลับเลื่อนหลุดออกจากใบหน้ามนด้วยที่เจ้าตัวเหวี่ยงมันออกไปนอกรัศมีห้องทำงาน ร่างบางเหยียดแขนอย่างสุดตัวแล้วเหวี่ยงไปรอบๆให้กล้ามเนื้อมันคลาย จนเผลอไปปัดโดนหนังสือที่เจ้าตัววางไว้ก่อนหน้านั้น ใบหน้ามนซีดเผือกลงทันทีเมื่อเห็นชั้นหนังสือเริ่มเอน ไม่จำเป็นต้องคาดเดาเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
โครม!!!!!!!!
" แอ๊กก.กก.ก.......ใครก็ได้ช่วยที" เสียงร้องอู้อี้ดังมาจากในกองหนังสือ ทำให้ร่างๆหนึ่งตรงดึ่งเข้ามาในห้องทำงานของเด็กสาวทันที
" ท่านยู!! ไม่เป็นไรนะเจ้าคะ" เด็กสาวตัวเล็กเท่าฝ่ามือบินวนรอบกองหนังสือที่ทับร่างบางไว้พลางร่ายมนต์ให้หนังสือลอยกลับไปที่ชั้นหนังสือ เด็กสาวโผล่ออกมาจากกองหนังสือมองเฟรี่ตัวน้อยด้วยสายตาหงุดหงิด
"เรียกว่า ยูซิส สิ จูจุ๊บ"
" ไม่เอาอ่ะ ยูซิส ชื่ออย่างกะผู้ชาย ถ้านายท่านอยากให้เรียกชื่อยูซิส ท่านก็เลิกเรียกข้าว่า จูจุ๊บ ก่อนสิ"
" ก็ ข้าสร้างเจ้ามาจากอมยิ้มจูจุ๊บนี่นา ก็ต้องชื่อจูจุ๊บสิ" หญิงสาวยิ้มพลางแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ทำเอาเฟรี่ตัวจิ๋วที่สร้างขึ้นมาจากอมยิ้มหนาวยะเยือกทันที อาการแบบนี้ ถ้าไม่รีบเปลี่ยนเปลี่ยนเรื่องล่ะก็มีหวังเธอได้ลงไปอยู่ในท้องของคนๆนี้อีกแน่ (น่าน..แสดงว่าเคยโดนกินมาแล้วสิเนี่ย)
" ขะ...ข้าว่านายท่านไปอาบน้ำล้างตัวก่อนดีกว่าฝุ่นเกาะเพียบไปหมดแล้ว เดี๋ยวข้าจะไปเตรียมอาหารมาให้" ภูติน้อยพูดจบเจ้าตัวก็รีบชิ่งออกจากห้องนั้นทันที เหลือไว้แต่นายสาวที่หัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ
...ช่างน่าแกล้งจริงๆ...ทาสรับใช้ของข้า....
แพนเค้กสีเหลืองนุ่มฟูถูกวางไว้บนจานประดับด้วยไอรครีมราดน้ำเชื่อมช็อคโกแล็ต ร่างบางเดินเข้ามาในครัว สายตาจับจ้องไปที่เฟรี่ตัวน้อยที่กำลังยกกระทะทอดเบคอนอย่างขยันขันแข็งดูน่ารักและน่าขบขันพร้อมกัน
แพนเค้กสีเหลืองนุ่มเข้าปากของหญิงสาวเจ้านั่งนั่งลงพลางเคี้ยวตุ้ยๆเหมือนกับไม่ได้กินอาหารมาเป็นอาทิตย์
" นายท่านคะ งานเขียนเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ"
" ง่ำๆ เอื้อกๆๆ อั่กๆ ฮ่า...ชื่นใจ ยังไม่เรียบร้อยเลย อ้ำ!! อร่อยดีแฮะวันนี้" ภูติน้อยมองหญิงสาวที่กินไม่สมกับเป็นกุลสตรี แถมยังพูดตอนที่อาหารยังไม่หมดปากเผยให้เห็นส่วนผสมของแพนเค้กกระเด็นออกมานอกจอน้อยๆ
" อีกแล้ว งานล่าช้าแบบนี้เดี๋ยวคนว่าจ้างเขาก็ว่าเอาหรอกนายท่าน"
" ชิ ก็บอกเขาไปสิว่า อยากจะได้งานดีๆ หรืออยากจะได้งานที่เผาไฟ ถ้าเอาเร็วๆ จะเผาให้ แต่ไม่รับรองคุณภาพน่ะ เอาป่ะ"
" โธ่..นายท่าน รับจ้างเขามาแล้วยังจะบ่ายเบี่ยงอีก คอยดูนะ ทำแบบนี้นานๆเข้าจะไม่มีใครเขาจ้างเอานะเจ้าคะ"
" ก็ไม่เห็นเป็นไร ถึงไม่มีใครจ้างเราก็ไม่อดตายหรอกน่า จูจุ๊บ ก็รู้อยู่ว่าข้ารับงานเป็นงานอดิเรกเท่านั้น อีกอย่างกำหนดส่งยังอีกนาน แถมงานที่นั่งหลังขดหลังแข็งทำอยู่เนี่ยก็ยากด้วย พลัดนิดพลัดหน่อย ผู้ว่าจ้างเขาคงไม่ว่าหรอกน่า แต่เจ้ามาบอกให้ข้ารีบทำแบบนี้แสดงว่าแอบไปรับงานใครเขามาอีกล่ะสิท่า"
" แหม..แอบเอิบอะไรเจ้าคะ ตอนที่นายท่านอยู่ในห้องทำงาน ข้าเคยถามแล้วและท่านยูก็รับปากแถมไม่ปฏิเสธงานด้วย" จูจุ๊บงอนแก้มป่อง มาหาว่าเธอแอบรับงานได้ไง นายท่านนะนายท่าน รับปากอะไรไปก็หัดจำๆไว้ซะบ้างสิ! หญิงสาวยิ้มแหยๆ เขาจำไม่ได้จริงๆน่ะแหล่พว่าเผลอตอบปากรับงานอะไรบ้าง ก่อนจะยีหัวจูจุ๊บเล่นอย่างหมันเขี้ยว
" เอาน่า ชั้นขอโทษละกันที่รับปากทั้งๆที่ไม่ดูเนื้อเรื่องที่จ้างวานให้ดีๆซะก่อน ว่าแต่งานที่รับมาคืออะไรล่ะ"
" แปลงร่างเป็นนางฟ้าไปช่วยซินเดอริลล่า ค่ะ"
โครม!!! เสียงคนหงายหลังตกจากโต้ะดังขึ้น ก่อนจะตระเกียกตระกายขึ้นมาใหม่ จูจุ๊บยังคงพูดเนื้อหาของการว่าจ้าง โดยที่ไม่สนใจเจ้านายที่นั่งกุมขมับอย่างปลงตก
"นี่ชั้นรับงานอะไรไปเนี่ย!!?"
"นางฟ้าที่เป็นคนว่าจ้าง เขาติดธุระที่จะต้องไปให้พรวันเกิดขององค์หญิงน้อยแห่งอาณาจักรนิทานเจ้าค่ะ จึงให้นายท่านแปลงร่างเป็นนางฟ้าไปช่วยแทน"
"จูจุ๊บ ตัวเธอเองก็เป็นแฟรี่ที่บินได้ ช่วยโมเมบอกว่าเป็นนางฟ้าแทนให้หน่อยไม่ได้เหรอ?"
"ไม่ได้เจ้าค่ะ!! นายท่านเป็นคนรับงานไปเอง นายท่านก็ต้องเป็นคนทำ!!นะเจ้าคะ!!!" จูจุ๊บพูดตะเบงเสียงอย่างไม่เกรงใจเจ้านาย
" โอ้......ม่าย....."
ตอน จอมเวทย์ที่ถูกลืม กะ ภารกิจบ๊องตื้น
.....แกร่กๆๆๆ ครืด....ปึง...คว๊ากๆๆ......
เสียงประหลาดที่ส่งออกมาเป็นระยะๆจากกระท่อมหลังน้อยที่ตั้งอยู่บนต้นไม้โบราณ ในป่ามายาอันเป็นที่อยู่ของเหล่านักสรรพสัตว์ ท่ามกลางกองขยะที่หนาเป็นนิ้วๆยังมีบุคคลหนึ่ง ที่ยังคงนั่งทำเสียงประหลาดนั้น
....แกร่กๆ ...ครืด.....พั่บๆๆ.....แกร่ก....
มือเรียวจับด้ามปากกาตวัดเขียนตัวอักษรด้วยลายเส้นที่ยุ่งเหยิงส่วนอีกข้างก็จับหนังสือพลิกหน้าไปมาหน้าแล้วหน้าเล่า สายตายังคงเพ่งจ้องไปที่กระดาษโดยไม่สนใจกองหนังสือที่ตัวเองวางสุมกันไว้อย่างหมิ่นเหม่ นัยน์ตาสีรัตติกาลอ่านเรื่องราวที่เขียนไว้กระดาษ หัวคิ้วขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ก่อนที่จะขยำกระดาษใบนั้นโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี
" โว้ยยย.ย.ยย....นึกเรื่องไม่ออกเฟ้ย!!" ร่างอ้อนแอ้นในชุดดำลุกพรวดขึ้นมาจากกองกระดาษ เผยให้เห็นเด็กสาวที่ตัดผมซอยสั้นที่มีผมสีดำสลับกับสีน้ำตาลแดงยาวระต้นคอกับแว่นหนาอันโตๆที่เจ้าตัวมักใส่อ่านหนังสืออยู่เสมอ ยามนี้กลับเลื่อนหลุดออกจากใบหน้ามนด้วยที่เจ้าตัวเหวี่ยงมันออกไปนอกรัศมีห้องทำงาน ร่างบางเหยียดแขนอย่างสุดตัวแล้วเหวี่ยงไปรอบๆให้กล้ามเนื้อมันคลาย จนเผลอไปปัดโดนหนังสือที่เจ้าตัววางไว้ก่อนหน้านั้น ใบหน้ามนซีดเผือกลงทันทีเมื่อเห็นชั้นหนังสือเริ่มเอน ไม่จำเป็นต้องคาดเดาเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
โครม!!!!!!!!
" แอ๊กก.กก.ก.......ใครก็ได้ช่วยที" เสียงร้องอู้อี้ดังมาจากในกองหนังสือ ทำให้ร่างๆหนึ่งตรงดึ่งเข้ามาในห้องทำงานของเด็กสาวทันที
" ท่านยู!! ไม่เป็นไรนะเจ้าคะ" เด็กสาวตัวเล็กเท่าฝ่ามือบินวนรอบกองหนังสือที่ทับร่างบางไว้พลางร่ายมนต์ให้หนังสือลอยกลับไปที่ชั้นหนังสือ เด็กสาวโผล่ออกมาจากกองหนังสือมองเฟรี่ตัวน้อยด้วยสายตาหงุดหงิด
"เรียกว่า ยูซิส สิ จูจุ๊บ"
" ไม่เอาอ่ะ ยูซิส ชื่ออย่างกะผู้ชาย ถ้านายท่านอยากให้เรียกชื่อยูซิส ท่านก็เลิกเรียกข้าว่า จูจุ๊บ ก่อนสิ"
" ก็ ข้าสร้างเจ้ามาจากอมยิ้มจูจุ๊บนี่นา ก็ต้องชื่อจูจุ๊บสิ" หญิงสาวยิ้มพลางแลบลิ้นเลียริมฝีปาก ทำเอาเฟรี่ตัวจิ๋วที่สร้างขึ้นมาจากอมยิ้มหนาวยะเยือกทันที อาการแบบนี้ ถ้าไม่รีบเปลี่ยนเปลี่ยนเรื่องล่ะก็มีหวังเธอได้ลงไปอยู่ในท้องของคนๆนี้อีกแน่ (น่าน..แสดงว่าเคยโดนกินมาแล้วสิเนี่ย)
" ขะ...ข้าว่านายท่านไปอาบน้ำล้างตัวก่อนดีกว่าฝุ่นเกาะเพียบไปหมดแล้ว เดี๋ยวข้าจะไปเตรียมอาหารมาให้" ภูติน้อยพูดจบเจ้าตัวก็รีบชิ่งออกจากห้องนั้นทันที เหลือไว้แต่นายสาวที่หัวเราะคิกคักอย่างชอบใจ
...ช่างน่าแกล้งจริงๆ...ทาสรับใช้ของข้า....
แพนเค้กสีเหลืองนุ่มฟูถูกวางไว้บนจานประดับด้วยไอรครีมราดน้ำเชื่อมช็อคโกแล็ต ร่างบางเดินเข้ามาในครัว สายตาจับจ้องไปที่เฟรี่ตัวน้อยที่กำลังยกกระทะทอดเบคอนอย่างขยันขันแข็งดูน่ารักและน่าขบขันพร้อมกัน
แพนเค้กสีเหลืองนุ่มเข้าปากของหญิงสาวเจ้านั่งนั่งลงพลางเคี้ยวตุ้ยๆเหมือนกับไม่ได้กินอาหารมาเป็นอาทิตย์
" นายท่านคะ งานเขียนเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ"
" ง่ำๆ เอื้อกๆๆ อั่กๆ ฮ่า...ชื่นใจ ยังไม่เรียบร้อยเลย อ้ำ!! อร่อยดีแฮะวันนี้" ภูติน้อยมองหญิงสาวที่กินไม่สมกับเป็นกุลสตรี แถมยังพูดตอนที่อาหารยังไม่หมดปากเผยให้เห็นส่วนผสมของแพนเค้กกระเด็นออกมานอกจอน้อยๆ
" อีกแล้ว งานล่าช้าแบบนี้เดี๋ยวคนว่าจ้างเขาก็ว่าเอาหรอกนายท่าน"
" ชิ ก็บอกเขาไปสิว่า อยากจะได้งานดีๆ หรืออยากจะได้งานที่เผาไฟ ถ้าเอาเร็วๆ จะเผาให้ แต่ไม่รับรองคุณภาพน่ะ เอาป่ะ"
" โธ่..นายท่าน รับจ้างเขามาแล้วยังจะบ่ายเบี่ยงอีก คอยดูนะ ทำแบบนี้นานๆเข้าจะไม่มีใครเขาจ้างเอานะเจ้าคะ"
" ก็ไม่เห็นเป็นไร ถึงไม่มีใครจ้างเราก็ไม่อดตายหรอกน่า จูจุ๊บ ก็รู้อยู่ว่าข้ารับงานเป็นงานอดิเรกเท่านั้น อีกอย่างกำหนดส่งยังอีกนาน แถมงานที่นั่งหลังขดหลังแข็งทำอยู่เนี่ยก็ยากด้วย พลัดนิดพลัดหน่อย ผู้ว่าจ้างเขาคงไม่ว่าหรอกน่า แต่เจ้ามาบอกให้ข้ารีบทำแบบนี้แสดงว่าแอบไปรับงานใครเขามาอีกล่ะสิท่า"
" แหม..แอบเอิบอะไรเจ้าคะ ตอนที่นายท่านอยู่ในห้องทำงาน ข้าเคยถามแล้วและท่านยูก็รับปากแถมไม่ปฏิเสธงานด้วย" จูจุ๊บงอนแก้มป่อง มาหาว่าเธอแอบรับงานได้ไง นายท่านนะนายท่าน รับปากอะไรไปก็หัดจำๆไว้ซะบ้างสิ! หญิงสาวยิ้มแหยๆ เขาจำไม่ได้จริงๆน่ะแหล่พว่าเผลอตอบปากรับงานอะไรบ้าง ก่อนจะยีหัวจูจุ๊บเล่นอย่างหมันเขี้ยว
" เอาน่า ชั้นขอโทษละกันที่รับปากทั้งๆที่ไม่ดูเนื้อเรื่องที่จ้างวานให้ดีๆซะก่อน ว่าแต่งานที่รับมาคืออะไรล่ะ"
" แปลงร่างเป็นนางฟ้าไปช่วยซินเดอริลล่า ค่ะ"
โครม!!! เสียงคนหงายหลังตกจากโต้ะดังขึ้น ก่อนจะตระเกียกตระกายขึ้นมาใหม่ จูจุ๊บยังคงพูดเนื้อหาของการว่าจ้าง โดยที่ไม่สนใจเจ้านายที่นั่งกุมขมับอย่างปลงตก
"นี่ชั้นรับงานอะไรไปเนี่ย!!?"
"นางฟ้าที่เป็นคนว่าจ้าง เขาติดธุระที่จะต้องไปให้พรวันเกิดขององค์หญิงน้อยแห่งอาณาจักรนิทานเจ้าค่ะ จึงให้นายท่านแปลงร่างเป็นนางฟ้าไปช่วยแทน"
"จูจุ๊บ ตัวเธอเองก็เป็นแฟรี่ที่บินได้ ช่วยโมเมบอกว่าเป็นนางฟ้าแทนให้หน่อยไม่ได้เหรอ?"
"ไม่ได้เจ้าค่ะ!! นายท่านเป็นคนรับงานไปเอง นายท่านก็ต้องเป็นคนทำ!!นะเจ้าคะ!!!" จูจุ๊บพูดตะเบงเสียงอย่างไม่เกรงใจเจ้านาย
" โอ้......ม่าย....."
นิทานเรื่องที่หนึ่ง เรื่องเล่าของสาวน้อยซินเดอริลล่าผู้แข็งแกร่ง
นิทานเรื่องที่หนึ่ง เรื่องเล่าของสาวน้อยซินเดอริลล่าผู้แข็งแกร่ง
ณ. ที่แห่งนึงในดินแดนกาลเวลายังมีครอบครัวเล็กๆที่ประกอบไปด้วยบุคคลสี่คน ผู้คนในหมู่บ้านมักกล่าวว่า บุคคลในครอบครัวนี้ไม่ชอบสงสิงกับใครซ้ำยังใช้แรงงานลูกสาวคนเล็กยิ่งกว่าทาสเสียอีก ลูกสาวคนนั้นมีนามว่า ซินเดอริลล่า ชาวบ้านมักเห็นอกเห็นใจหญิงสาวผู้งดงามเสมอ แต่จะมีซักกี่คนกันเล่าที่รู้ว่า ทำไมเธอถึงต้องรับผิดชอบงานในบ้านและทำงานทุกอย่างแบบนี้
" กรี๊ดดด..ด...ด...ด..ด....ดดด......ซินเดอริลล่า ไปซื้อสกีนโทนให้หน่อย ชั้นจะรีบปิดต้นฉบับแล้ว"
เสียงตะโกนเรียกดังมาจากในห้องของพี่สาวคนโต ดวงตากลมโตที่ขอบตาสำประดับด้วยขอบสีดำราวกับไม่ได้นอนมา 3-4 วัน อย่างกิ๊บเก๋ ผมสีดำที่รวบพันไว้มั่วๆกลัดด้วยปากกาจี-เพ้น ดูหรูหรา(?) มีบางส่วนหลุกออกมาประปรายดูเซ็กซี่เหมือนตัวมาลาเดอน่า(!!?)
" ค่ะ เอาลายสกีนโทนเงา 2.0 ใช่ใหมพี่"
" เออ! เอามาให้พี่3-4 แผ่นนะ เร็วๆล่ะ ว้าย!! เหลือแวลาอีกสองชั่วโมงเอง จะไม่ทันแล้ว!!!"
" ค่า..... จะรีบกลับ แม่คะแล้วแม่จะเอาอะไรใหม?" ร่างบอบบางแต่เสียงขนาด200 เดซิเบล ตะโกนถามผู้เป็นมารดาที่อยู่ในห้องอีกฝากนึงของบ้าน
" จะออกไปข้างนอกเหรอ งั้นซื้อแผ่นโปรแกรมอินตี้ไวรัสให้ที เอารุ่นใหม่ล่าสุดเลยนะ เอ้อ!! ซื้อลิโพมาให้จินนี่ด้วยซักครึ่งโหลนะ"
"ค่า จะรีบไปรีบกลับ"
ใช่แล้ว!! สาเหตุที่เธอต้องรับผิดชอบงานบ้านทุกอย่างไม่ได้เป็นเหมือนที่ชาวบ้านเขาเข้าใจกันหรอก สาเหตุที่เธอต้องเรื่องดูแลทุกอย่างก็เพราะไม่มีใครสามารถปรีกตัวออกจากห้องมาได้เลยต่างหาก พี่สาวคนโตของเธอ เป็นนักเขียนการ์ตูนแนวสืบสวนที่กำลังมาแรง ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งปั่นต้นฉบับมือหงิก เพื่อปิดต้นฉบับให้ทันก่อนที่ดูแลจะมารับการ์ตูนของเธอไป ส่วนแม่กับพี่สาวคนกลางเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ตอนนี้กำลังนั่งปั่นหุ้นให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง งานบ้านทุกอย่างจึงตกอยู่กับเธอ
" โอ้ยยยยย.ยย.ยย..... เซ็งๆๆๆ วันทั้งวันทำแต่งานบ้าน งานบ้านและก็งานบ้าน ถึงมันจะเป็นงานที่ไม่เลวก็เถอะแต่มันไม่มีเรื่องอะไรที่มันตื่นเต้นเกิดขึ้นบ้างเลยรึไงน้า...."
ร่างบอบบางกวาดใบไม้ไปบ่นไป ดวงหน้ารูปไข่หงายหน้ามองพระอาทิตย์หน้าร้อน แสงแดดส่องประกายขับให้เส้นผมสีน้ำตาลทองของเธอส่องแสงสว่างเรืองๆราวกับภูติ ดวงตาสีฟ้าสดใสมองก้อนเมฆที่ลอยเคลื่อนต่ำไปตามทิศทางของสายลม หญิงบสาวตรงหน้าจัดได้ว่ามีความงามที่หาได้ยาก แต่ทำไมเธอจึงไม่เคยเป็นที่สนใจของผู้ชายในหมู่บ้าน บางทีอาจเป็นเพราะนิสัยของเธอก็เป็นได้...
" เฮ้อ...เสร็จซักที"
หญิงสาวกวาดใบไม้มาสุมไว้เป็นกอง แล้ววิ่งเข้าครัวเพื่อไปหยิบหัวมันที่เธอได้มาจากหญิงชราข้างบ้าน มาโยนลงไปในกองแล้วจุดไฟเผา ร่างบางปัดเศษใบไม้ออกจากมือแล้วเดินไปหยิบกระป๋องใส่ปุ๋ยคอกวัว แต่ยังไม่ทันที่ซินเดอริลล่าจะเดินไปที่แปลงเพาะปลูก หญิงสาวก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างที่อยู่หน้าบ้านเธอ จากทิศที่เธอเห็นเงานั้นเป็นผู้ชายรูปร่างสูงโย่งสวมหมวกปิดหน้ามองไม่เห็นดวงตา ทำตัวลับๆล่อๆ มองเข้าไปในบ้านของเธอ ก่อนจะหยิบของบางอย่างออกมาจากย่าม
" กรี๊ดดดดดดด...ด......ดดดด..... ขโมย!!! ออกไปจากบ้านช้านน้า......!!!" กระป๋องปุ๋ยคอกถูกสากเข้าใส่ชายผู้นั้นทันที ไม่บอกก็รู้ว่ามีแต่เละกับเละ
" อุแหวะ!!! แค๊ก ตุ้ยๆๆ อื้ม...หืม....เข้าปากด้วย" หัวขโมยแทบจะอ๊วก แต่ไม่ทันที่จะได้สำรอกของเก่า หญิงสาวก็วิ่งเข้ามาประชิดตัวพร้อมกับใช้ใม้ที่ตัวเองหยิบติดมาด้วยฟาดไปที่โจรผู้นั้นทันที
" โอ้ย....ไม่ใช่นะคุณหนู อ้ากกกก.ก.ก อย่าเอากระบวยตักปุ๋ยคอกมาฟาดเด้!!!"
" กรี๊ดๆๆๆ ขโมยๆ"
"ไม่ช่าย... ฟังมั่งรึเปล่าเนี่ย ข้าเป็นคนส่งสารของพระราชาต่างหาก"
" ไม่เชื่อ มาทำด้อมๆมองๆ บ้านข้าแบบนี้จะเป็นคนส่งสารของพระราชาได้ยังไง อย่ามาหลอกข้าเลยน่า"
" เป็นจริงจริ๊ง.... ไม่เชื่อดูสารนี่ก็ได้" ชายหนุ่มร่างสูงโหย่งล้วงหาสารที่จะส่งมือใหญ่หยิบม้วยกระดาษใบนึงออกจากย่ามส่งไปให้หญิงสาว
" เฮ้ย!! ของจริงนิ ใหนๆ ให้ไปงานเลี้ยงเพื่อเลือกคู่เหรอ..ไร้สาระจริง ใหนๆแล้วไงต่อ ห๋า!!!! ให้ไปทุกคนด้วย บังคับกันนี่หว่าเนี่ยะ"
" เอาล่ะ ถ้าคุณหนู(รึเปล่า?) ได้รับจดหมายแล้วข้าก็ขอตัวล่ะ" พูดจบคนส่งสารก็รีบเผ่นออกจากตรงนั้นทันที พลางคิดในใจ ถ้ามีลูกขอซักตัวเถอะ จะเอาไปเฝ้าบ้าน ผู้หญิงอะไรฟะดุชิบ!
ณ. ที่แห่งนึงในดินแดนกาลเวลายังมีครอบครัวเล็กๆที่ประกอบไปด้วยบุคคลสี่คน ผู้คนในหมู่บ้านมักกล่าวว่า บุคคลในครอบครัวนี้ไม่ชอบสงสิงกับใครซ้ำยังใช้แรงงานลูกสาวคนเล็กยิ่งกว่าทาสเสียอีก ลูกสาวคนนั้นมีนามว่า ซินเดอริลล่า ชาวบ้านมักเห็นอกเห็นใจหญิงสาวผู้งดงามเสมอ แต่จะมีซักกี่คนกันเล่าที่รู้ว่า ทำไมเธอถึงต้องรับผิดชอบงานในบ้านและทำงานทุกอย่างแบบนี้
" กรี๊ดดด..ด...ด...ด..ด....ดดด......ซินเดอริลล่า ไปซื้อสกีนโทนให้หน่อย ชั้นจะรีบปิดต้นฉบับแล้ว"
เสียงตะโกนเรียกดังมาจากในห้องของพี่สาวคนโต ดวงตากลมโตที่ขอบตาสำประดับด้วยขอบสีดำราวกับไม่ได้นอนมา 3-4 วัน อย่างกิ๊บเก๋ ผมสีดำที่รวบพันไว้มั่วๆกลัดด้วยปากกาจี-เพ้น ดูหรูหรา(?) มีบางส่วนหลุกออกมาประปรายดูเซ็กซี่เหมือนตัวมาลาเดอน่า(!!?)
" ค่ะ เอาลายสกีนโทนเงา 2.0 ใช่ใหมพี่"
" เออ! เอามาให้พี่3-4 แผ่นนะ เร็วๆล่ะ ว้าย!! เหลือแวลาอีกสองชั่วโมงเอง จะไม่ทันแล้ว!!!"
" ค่า..... จะรีบกลับ แม่คะแล้วแม่จะเอาอะไรใหม?" ร่างบอบบางแต่เสียงขนาด200 เดซิเบล ตะโกนถามผู้เป็นมารดาที่อยู่ในห้องอีกฝากนึงของบ้าน
" จะออกไปข้างนอกเหรอ งั้นซื้อแผ่นโปรแกรมอินตี้ไวรัสให้ที เอารุ่นใหม่ล่าสุดเลยนะ เอ้อ!! ซื้อลิโพมาให้จินนี่ด้วยซักครึ่งโหลนะ"
"ค่า จะรีบไปรีบกลับ"
ใช่แล้ว!! สาเหตุที่เธอต้องรับผิดชอบงานบ้านทุกอย่างไม่ได้เป็นเหมือนที่ชาวบ้านเขาเข้าใจกันหรอก สาเหตุที่เธอต้องเรื่องดูแลทุกอย่างก็เพราะไม่มีใครสามารถปรีกตัวออกจากห้องมาได้เลยต่างหาก พี่สาวคนโตของเธอ เป็นนักเขียนการ์ตูนแนวสืบสวนที่กำลังมาแรง ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งปั่นต้นฉบับมือหงิก เพื่อปิดต้นฉบับให้ทันก่อนที่ดูแลจะมารับการ์ตูนของเธอไป ส่วนแม่กับพี่สาวคนกลางเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ตอนนี้กำลังนั่งปั่นหุ้นให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง งานบ้านทุกอย่างจึงตกอยู่กับเธอ
" โอ้ยยยยย.ยย.ยย..... เซ็งๆๆๆ วันทั้งวันทำแต่งานบ้าน งานบ้านและก็งานบ้าน ถึงมันจะเป็นงานที่ไม่เลวก็เถอะแต่มันไม่มีเรื่องอะไรที่มันตื่นเต้นเกิดขึ้นบ้างเลยรึไงน้า...."
ร่างบอบบางกวาดใบไม้ไปบ่นไป ดวงหน้ารูปไข่หงายหน้ามองพระอาทิตย์หน้าร้อน แสงแดดส่องประกายขับให้เส้นผมสีน้ำตาลทองของเธอส่องแสงสว่างเรืองๆราวกับภูติ ดวงตาสีฟ้าสดใสมองก้อนเมฆที่ลอยเคลื่อนต่ำไปตามทิศทางของสายลม หญิงบสาวตรงหน้าจัดได้ว่ามีความงามที่หาได้ยาก แต่ทำไมเธอจึงไม่เคยเป็นที่สนใจของผู้ชายในหมู่บ้าน บางทีอาจเป็นเพราะนิสัยของเธอก็เป็นได้...
" เฮ้อ...เสร็จซักที"
หญิงสาวกวาดใบไม้มาสุมไว้เป็นกอง แล้ววิ่งเข้าครัวเพื่อไปหยิบหัวมันที่เธอได้มาจากหญิงชราข้างบ้าน มาโยนลงไปในกองแล้วจุดไฟเผา ร่างบางปัดเศษใบไม้ออกจากมือแล้วเดินไปหยิบกระป๋องใส่ปุ๋ยคอกวัว แต่ยังไม่ทันที่ซินเดอริลล่าจะเดินไปที่แปลงเพาะปลูก หญิงสาวก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างที่อยู่หน้าบ้านเธอ จากทิศที่เธอเห็นเงานั้นเป็นผู้ชายรูปร่างสูงโย่งสวมหมวกปิดหน้ามองไม่เห็นดวงตา ทำตัวลับๆล่อๆ มองเข้าไปในบ้านของเธอ ก่อนจะหยิบของบางอย่างออกมาจากย่าม
" กรี๊ดดดดดดด...ด......ดดดด..... ขโมย!!! ออกไปจากบ้านช้านน้า......!!!" กระป๋องปุ๋ยคอกถูกสากเข้าใส่ชายผู้นั้นทันที ไม่บอกก็รู้ว่ามีแต่เละกับเละ
" อุแหวะ!!! แค๊ก ตุ้ยๆๆ อื้ม...หืม....เข้าปากด้วย" หัวขโมยแทบจะอ๊วก แต่ไม่ทันที่จะได้สำรอกของเก่า หญิงสาวก็วิ่งเข้ามาประชิดตัวพร้อมกับใช้ใม้ที่ตัวเองหยิบติดมาด้วยฟาดไปที่โจรผู้นั้นทันที
" โอ้ย....ไม่ใช่นะคุณหนู อ้ากกกก.ก.ก อย่าเอากระบวยตักปุ๋ยคอกมาฟาดเด้!!!"
" กรี๊ดๆๆๆ ขโมยๆ"
"ไม่ช่าย... ฟังมั่งรึเปล่าเนี่ย ข้าเป็นคนส่งสารของพระราชาต่างหาก"
" ไม่เชื่อ มาทำด้อมๆมองๆ บ้านข้าแบบนี้จะเป็นคนส่งสารของพระราชาได้ยังไง อย่ามาหลอกข้าเลยน่า"
" เป็นจริงจริ๊ง.... ไม่เชื่อดูสารนี่ก็ได้" ชายหนุ่มร่างสูงโหย่งล้วงหาสารที่จะส่งมือใหญ่หยิบม้วยกระดาษใบนึงออกจากย่ามส่งไปให้หญิงสาว
" เฮ้ย!! ของจริงนิ ใหนๆ ให้ไปงานเลี้ยงเพื่อเลือกคู่เหรอ..ไร้สาระจริง ใหนๆแล้วไงต่อ ห๋า!!!! ให้ไปทุกคนด้วย บังคับกันนี่หว่าเนี่ยะ"
" เอาล่ะ ถ้าคุณหนู(รึเปล่า?) ได้รับจดหมายแล้วข้าก็ขอตัวล่ะ" พูดจบคนส่งสารก็รีบเผ่นออกจากตรงนั้นทันที พลางคิดในใจ ถ้ามีลูกขอซักตัวเถอะ จะเอาไปเฝ้าบ้าน ผู้หญิงอะไรฟะดุชิบ!
แก้ไขล่าสุดโดย aria เมื่อ Sun Jul 25, 2010 8:54 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
หา!!! ไปงานเลี้ยงเต้นรำเรอะ!!!??
ตอน หา!!! ไปงานเลี้ยงเต้นรำเรอะ!!!??
" เฮ้อ...แล้วเอาไงดีล่ะเนี่ย งานเต้นรำของเจ้าชายงั้นเหรอ น่าเบื่อจะตาย ถึงชั้นจะอยากให้มันมีเรื่องแปลกใหม่เกิดขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ได้หวังที่จะอยากเข้าร่วมด้วยนี่นา"
ริมฝีปากบางเม้มเฉียบอย่างไม่ค่อยพอใจ ก่อนจะยัดม้วนจดหมายใส่กระเป๋าแล้วเดินกลับไปทำงานของเธอต่อ
มื้อค่ำของเย็นวันนั้น
" อะไรนะ!!? ไปงานเลี้ยงเต้นรำ แถมจัดในอีกสองวันข้างหน้า" พี่สาวสุดโทรมแทบจะพ่นน้ำชาออกจากปากทันทีที่ได้ยินเรื่องสารที่ส่งมาจากพระราชา
" ใช่ค่ะพี่ ในจดหมายยังเขียนอีกนะว่าต้องไปทุกคน" ซินเดอริลล่าพูดย้ำเนื้อหาในจดหมาย ใบหน้าหวานหันไปมอง พี่สาวคนกลางกับคุณแม่เพื่อขอความคิดเห็น
" แล้วแม่ว่าไงคะ?"
" อืม.. งั้นก็แย่สิจ้ะ แม่ยังจัดการ เรื่องบัญชียังไม่เสร็จเลย คงต้องเร่งแล้วล่ะ" นางพูดพร้อมรวบรวมเอกสาร ที่เอามาเขียนด้วยยัดใส่กระเป๋าแล้วขอตัวกลับไปทำงานต่อ
พี่สาวคนโตมองไปทางแม่ที่รีบวิ่งกลับไปทำงานให้เสร็จ ก่อนหันมามอง ซินเดอริลล่า
" ส่วนพี่ปิดต้นฉบับแล้วก็จริง แต่ชุดเต้นรำคงต้องซื้อใหม่ เพราะพี่รู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นมาก คงใส่จะเดิมไม่ได้แหงๆ"
" อืม.. แต่หนูว่าแค่เอาชุดไปดัดแปลงเพิ่มเติม ก็น่าจะพอมั้งคะ เพราะส่วนที่อ้วนของพี่ มันมีแค่ตรงหน้าอกเท่านั้นเองนี่นา"
ซินเดอริลล่า มองอย่างพิจารณากับรูปร่างของพี่สาว ผิวที่เคยเป็นสีน้ำผึ้งกลายเป็นสีขาวแบบงาช้าง เนื่องจากไม่ได้ออกไปตากแดด เอวคอดกิ่ว สะโพกผาย ไม่มีอะไรต่างจากเมื่อก่อนซักนิด จะมีเพิ่มขึ้นก็ตรงหน้าอกที่มีขนาดมหึมากับดวงหน้าที่เคยหวานกลายเป็นสุดโทรมเพราะนอนไม่พอก็เท่านั้น
" ถูกของซินเดอริลล่านะ ขืนตัดชุดใหม่ก็คงไม่ทันงานเลี้ยงเต้นรำหรอก เพราะสาวๆทั่วทั้งดินแดน คงจะไปเคาะประตูหน้าบ้านคนตัดเย็บ ให้ช่วยตัดชุดใหม่กันมือระวิงแน่" จินนี่พี่สาวคนกลางพูดขึ้นอย่างเห็นดีเห็นงามกับความคิดของ ซินเดอริลล่า
" แค่พี่มิเรียไปสลัดคราบสุดโทรมนี่ออกซะก็พอแล้ว ส่วนชุด ซิเดอรริลล่า ก็ช่วยดัดแปลงให้ทีนะ"
" โอเค เลยพี่ อยากใส่ชุดใหน พี่ก็เอามาให้ชั้นละกัน เดี๋ยวจะแต่งใหม่ให้เนี๊ยบเลย อ้อ! เลือกชุดของแม่มาให้ด้วยนะพี่"
" จ้าๆๆ ท่านซิน เดี๋ยวพี่สาวคนนี้จะประเคนมาให้ถึงมือเลย ว่าแต่เธอเถอะ คิดจะใส่ชุดใหนไปงาน"
" งานพรรนี้น่ะเหรอ ข้าไม่ไปหรอก สู้ให้ท่านพี่แต่งตัวสวยๆไปงานแล้วกลับมาเล่าให้ข้าฟังดีกว่า"
ซินเดอริลล่า ส่ายหน้า เธอชอบดูคนอื่นสวยงามมากกว่าที่ตัวเองจะสวยซะเอง เพราะรู้ดีว่าผู้หญิงสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองสวยขึ้นแม้จะทรมานแค่ใหน และเธอไม่คิดที่จะไปทรมารทรกรรมตัวเอง เพื่อใครก็ไม่รู้หรอก
" เฮ้อ..ซินเดอริลล่า นี่เจ้าไม่มีความฝันของหญิงสาวที่ใส่ชุดสวยๆแล้วได้ไปเต้นรำกับเจ้าชายบ้างเลยรึไงกัน"
" ไร้สาระ เจ้าชายคงไม่มาเต้นรำกับหญิงสาวทุกคนทั้งอาณาจักรได้หรอกน่า เขาก็คงเลือกที่จะเต้นรำกับหญิงสาวผู้ดีมีตระกูลไม่ก็สาวงามสะพรั่งเท่านั้นแหล่ะ ข้าไม่คิดว่าหญิงสาวธรรมดาๆอย่างข้าจะได้เต้นรำกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์หรอก"
หญิงสาวพูดตามสัจธรรม เธอไม่เคยจะหวังกับสิ่งเหล่านี้ การได้เต้นรำกับความฝันในวัยเยาว์เท่านั้น
“เอาเถอะตามใจเจ้าละกัน เดี๋ยวชั้นจะกลับไปช่วยงานให้เสร็จส่วนพี่มิเรียก็รีบๆไปสลัดคราบสุดโทรมนี่ออกซะด้วยนะ”
“ จ้า....คุณน้องๆสุดที่เลิฟทั้งหลาย เดี๋ยวพี่จะเนรมิตตัวเองให้สวยปิ้งเหมือนสโนไวท์เลย”
…………………………………………………
……………………………………….
………………………………..
…………………………
TBC
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|